เมนู

10. ปฐมนาควิมาน


ว่าด้วยปฐมนาควิมาน


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[60] ท่านเมื่อขึ้นช้างตัวเผือกผ่อง ไม่มีตำหนิ
มีงา มีพลัง เร็วมาก ก็ขับขี่ช้างประเสริฐที่ตกแต่ง
ไว้งาม เหาะเหินในอากาศมา ณ ที่นี้ ที่งาทั้งสอง
ของช้าง เนรมิตสระปทุมมีน้ำใส มีดอกปทุมบาน
สะพรั่ง ในดอกปทุมทั้งหลายมีคณะเทพดนตรี
บรรเลงอยู่ และมีเหล่าเทพอัปสรที่งามจับใจฟ้อนรำ
อยู่ ท่านบรรลุเทพฤทธิ์ มีอานุภาพมาก ครั้งเกิด
เป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร
ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่าน
จึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้า
เลื่อมใส ยกดอกไม้กำแปดดอกขึ้นบูชาที่พระสถูป
ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ด้วยมือ
ตนเอง เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็น
เช่นนี้ ฯ ล ฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสว
ไปทุกทิศ.

จบปฐมนาควิมาน

อรรถกถาปฐมนาควิมาน


ปฐมนาควิมาน มีคาถาว่า สุสุกฺกขนฺธํ อภิรุยฺห นาคํ เป็นต้น.
ปฐมนาควิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน กรุงสาวัตถี
สมัยนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะเที่ยวเทวจาริก ตามนัยที่กล่าวแล้ว
ในหนหลังนั่นแล ไปถึงภพดาวดึงส์ ได้เห็นเทพบุตรองค์หนึ่งในดาวดึงส์
นั้น ขี่ช้างทิพย์ใหญ่เผือกปลอดไปทางอากาศ ด้วยบริวารเป็นอันมาก
ด้วยทิพยานุภาพยิ่งใหญ่ สว่างไสวไปทุกทิศ เหมือนพระจันทร์และพระ-
อาทิตย์ ครั้นเห็นแล้วจึงเข้าไปหาเทพบุตรนั้น ครั้งนั้น เทพบุตรนั้นลง
จากช้าง กราบท่านพระมหาโมคคัลลานะแล้ว ยืนประคองอัญชลีอยู่.
ลำดับนั้น พระเถระได้ถามถึงกรรมที่ทำไว้ โดยมุ่งประกาศสมบัติ
ของเทพบุตรนั้นว่า
ท่านเมื่อขึ้นช้างตัวเผือกผ่อง ไม่มีตำหนิ มีงา
มีพลัง เร็วมาก ก็ขับขี่ช้างประเสริฐที่ตกแต่งไว้งาม
เหาะเหินในอากาศมา ณ ที่นี้ ที่งาทั้งสองของช้าง
เนรมิตสระปทุมมีน้ำใส มีดอกปทุมบานสะพรั่ง ใน
ดอกปทุมทั้งหลายมีคณะเทพดนตรีบรรเลงอยู่ และ
มีเหล่าเทพอัปสรที่งามจับใจฟ้อนรำอยู่ ท่านบรรลุ
เทพฤทธิ์ มีอานุภาพมาก ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่าน
ได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพ